ผีเปรตยอดพระปรางค์ – เรื่องเล่าเขย่าขวัญ

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้จะขอเล่าเรื่องที่เกี่ยวกับความเชื่อหน่อยนะคะ พวกคุณเชื่อเรื่องบาปกรรมที่คนทำบาปมากๆ ตายไปแล้วจะกลายเป็นเปรตไหม ส่วนตัวเรานั้นเชื่อค่ะ เพราะทางบ้านเราเค้าสอนให้เชื่อเรื่องบาปกรรมมาก และก็จะได้ฟังนิทานธรรมเกี่ยวกับกฎแห่งกรรมมาเยอะอยู่เหมือนกัน

มันเป็นการกระทำที่แปลกๆ เป็นความเชื่อของคนแถบๆ บ้านเราว่า ตอนกลางคืนให้เอาข้าวต้มมัดมามัดที่เอว แล้วเดินวนรอบโบสถ์ในทิศทวนเข็มนาฬิกาสามรอบ พอเดินครบแล้วให้หันหลังให้โบสถ์ แล้วให้มองลอดใต้หว่างขาดู จะเห็นเปรตเอื้อมมือมาหยิบข้าวต้มมัดที่เอวเรา

เราเคยฟังเรื่องนี้มาจากคนแก่ๆ ที่อยู่บริเวณวัดแถวบ้าน วัดแถวบ้านเราจะมีพระปรางค์ที่เก่าแก่มาก

ขออธิบายลักษณะรอบๆ วัดนะคะ โบสถ์จะอยู่ตรงกลาง พระปรางค์จะอยู่ทางขวามือ ทางซ้ายมือจะเป็นศาลาการเปรียญ หน้าวัดจะมีพื้นที่โล่งๆ พอที่จะให้รถยนต์เข้าได้ และจะมีคลองอยู่หน้าวัด คลองนี้เมื่อก่อนเค้าจะใช้เป็นทางสัญจรเรือของชาวบ้าน ก็จะมีการพายเรือขายของกันตามวิถีชนบท

พอมีการพายเรือขายของทางน้ำแล้ว ข้างๆ ตลิ่งก็จะมีร้านค้าอยู่ สมัยก่อนพวกพ่อค้าแม่ค้าเค้าจะเปิดร้านกันตั้งแต่เช้ามืด ก็จะต้องเอาของมาตั้งเตรียมร้านก่อน

วันนึงเราไปงานศพ คือคนแถวนั้นเค้าจะรู้จักกันหมดเพราะเป็นหมู่บ้านที่ไม่ใหญ่มาก เวลามีงานบุญหรืองานศพเค้าก็จะมาช่วยๆ กัน

เราก็ไปกับญาติๆ เรา พอจบงานศพ เค้าก็นั่งจับกลุ่มคุยกัน เราก็ไม่ค่อยได้สนใจอะไรเท่าไหร่ แต่หูมันมาสะดุดอยู่ตรงที่มีลุงคนนึงพูดถึงเรื่องเปรตขึ้นมา ลุงคนนั้นแกออกจะเมาหน่อยๆ เพราะเค้าจับกลุ่มกันดื่มเหล้าด้วย แกชื่อว่า ลุงเปี๊ยก แกพูดว่า

“พวกเอ็งเชื่อเรื่องเปรตไหม”

ทุกคนในนั้นก็เงียบกันทันทีรวมทั้งเราด้วย เหมือนพร้อมที่จะฟัง ลุงเปี๊ยกก็เลยเล่าเรื่องเกี่ยวกับเปรตให้ฟังหลายเรื่อง

“ครั้งนึงเคยมีแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวไปซื้อของกลับมาแล้วจะเอาของมาไว้ที่ร้าน แต่ไม่รู้มันคึกอะไรถึงเอาของมาไว้ที่ร้านตอนตีสอง ร้านมันอยู่หน้าวัดนี่แหละ มันได้ยินเสียง วี๊ดดดดดด.. วี๊ดดดดดด.. มันคงนึกว่าเป็นเสียงลูกหมูตัวเล็กๆ มั้งที่มันร้องอี๊ดๆ ก็ไม่สนใจอะไร

จนมันหันมามองที่พระปรางค์ มันก็ตกใจ มันบอกว่าเห็นเปรตยืนอยู่ข้างพระปรางค์ เท่านั้นแหละ ข้าวของตกน้ำหมดเลย ก็คนมันตกใจนี่โว้ย จับไข้หัวโกร๋น ขายของไม่ได้ไปตั้งหลายวัน”

ลุงแกก็เล่ามาอีกว่า

“วันก่อนนู้นเลย ข้าไปนั่งกินที่ท้ายหมู่บ้าน แต่ข้าไม่เมานะเว้ย ข้าเดินผ่านพระปรางค์ ข้าเห็นผู้หญิงคนนึงใส่เสื้อสีออกแดงๆ ยืนอยู่ข้างพระปรางค์ ข้าก็หยุดมองสักพัก มองไปมองมามันเริ่มตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ข้าไม่อยู่ให้โง่หรอก ข้าวิ่งตั้งแต่มันเริ่มยืดตัวแล้ว แต่ระดับข้าไม่กลัวหรอกโว้ย แค่ถอยมาตั้งหลักเฉยๆ”

พอลุงเปี๊ยกเล่าจบ ลุงของเราที่นั่งฟังอยู่ด้วยก็หัวเราะเสียงดังลั่น แล้วก็พูดแนวท้าทายว่า

“แหม ปากแกนี่นะตาเปี๊ยก ถ้าแน่จริงแกไปเดินรอบโบสถ์ตอนนี้ไหมล่ะ”

ลุงเปี๊ยกแกฟังคำท้า มีเหรอจะกลัว! ยิ่งตอนนั้นเพื่อนเยอะด้วย รวมทั้งกรึ่มๆ แล้ว แต่เวลานั้นยังไม่ดึกมากนะคะ เวลาประมาณสามทุ่มกว่าๆ ลุงเปี๊ยกพอแกรับคำท้าก็เดินดุ่มๆ ตรงไปที่โบสถ์ แล้วพวกคนในวงเหล้าก็เดินตามไปดู ไม่รู้ว่าพวกเค้าคิดอะไรกันอยู่ ถึงได้มาท้าทายกันเรื่องแบบนี้ ส่วนเราไม่เดินไปหรอกค่ะ เรากลับบ้านก่อน กลับไปกับป้าเรา เราก็เลยไม่รู้ว่าหลังจากนั้นมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง

จนมาถึงตอนเช้า เราตื่นมา เราเห็นลุงก็เลยถามแกว่า

“เมื่อคืนเป็นไงกันบ้างลุง ลุงเปี๊ยกแกเดินรอบโบสถ์จริงไหม แล้วเจออะไรกันบ้างรึเปล่า ฮ่าๆ”

เราน่ะขำ แต่ลุงเราขำไม่ออก คือสีหน้าลุงไม่ยิ้มเลย แถมยังทำหน้าแบบกลัวๆ อีกด้วยซ้ำ ลุงเลยเล่าให้ฟังว่า

“ตอนที่ตาเปี๊ยกมันไปเดินวนรอบโบสถ์ มันไม่ได้เดินอย่างเดียวนะ มันเดินไป เอาไม้เคาะพื้นไปด้วย แล้วมันยังพูดอีกนะว่า ผีเหรอ…ออกมาสิ! มันเดินไปรอบนึง ลมเริ่มพัดแรง พวกลุงได้ยินเสียง วี๊ดดดดดด.. มันดังมาจากทางพระปรางค์ เดินยังไม่ทันครบสามรอบเลย ตาเปี๊ยกก็ร้องลั่น บอกให้พวกลุงวิ่งเข้าโบสถ์เร็วๆ เปรตมา!

พวกลุงก็หันไปมองทางพระปรางค์ เห็นเปรตจริงๆ ตัวสูงมาก สูงกว่ายอดพระปรางค์เยอะเลย ผอมแห้ง ตาถลน มีเหมือนผ้าสีแดงๆ อยู่ตรงเอวมัน ปากจู๋ เห็นแบบนั้นพวกลุงรีบวิ่งเข้าโบสถ์เลย แล้วก็นอนในโบสถ์นั่นแหละ พอเช้าลุงถึงได้เดินกลับมาบ้านนี่ไง”

นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้น แล้วก็มีอีกเรื่องนึงที่เราก็ฟังมาจากลุงของเราอีกเหมือนกัน

ข้างๆ บ้านเก่าของลุงเราจะมีบ้านอยู่หลังนึง ไม่ใหญ่มาก เป็นบ้านของน้าเปิ้ล (นามสมมติ) บ้านไม่ใหญ่เท่าไหร่แต่พื้นที่นั้นใหญ่พอสมควร น้าเปิ้ลอยู่กับแม่สองคน แล้วเวลาแกออกไปหาปลาก็ชอบขังแม่อยู่ในบ้านคนเดียว กว่าจะกลับบ้านก็ค่ำมืด แล้วก็มีกับข้าวเก่าๆ บูดๆ ทิ้งไว้ให้แม่กิน แม่แกก็แก่มากแล้ว

บ้านของน้าเปิ้ลสมัยนั้น คนแถวนั้นเค้าจะสร้างด้วยใบจาก ไม้ไผ่ มีอยู่วันนึงน้าเปิ้ลขังแม่ไว้ในบ้านคนเดียว แล้วแม่แกคงอยากออกมาข้างนอกมั้ง ก็เลยเอามีดค่อยๆ ฟันใบจากออกเพื่อที่แกจะได้ออกมาข้างนอกได้ แต่น้าเปิ้ลกลับมาเห็นพอดีว่าแม่กำลังใช้มีดฟันจากอยู่ น้าเปิ้ลโมโหมาก เข้าไปทุบตีแม่ตัวเองอย่างทารุณ

แกตีแม่ทุกวัน ให้แม่กินอาหารบูดๆ ทุกวัน จนสุดท้ายแม่แกเสียชีวิตไปด้วยโรคชรา และมีอยู่วันนึงน้าเปิ้ลออกไปหาปลาเหมือนเคย แล้วแกไปทำอีท่าไหนไม่รู้ สุดท้ายก็จมน้ำตาย

หลังจากที่แกตายไปได้ประมาณเกือบปี ที่ดินตรงบ้านน้าเปิ้ลก็รกร้าง คนแถวนั้นมักได้ยินเสียง วี๊ดดดดดด.. เหมือนเสียงของเปรตที่กรีดร้องอย่างโหยหวน บางคนก็ว่า น้าเปิ้ลนี่แหละ ตายแล้วกลายเป็นเปรตมาวนเวียนอยู่ตรงที่ดินผืนนั้น

เราได้ฟังมาประมาณนี้นะคะ เรามีความเชื่อเรื่องเปรต เรื่องนรก บาปกรรม คนเราต้องหมั่นทำความดี สร้างบุญกุศลไว้ตั้งแต่ตอนยังมีชีวิตอยู่ เอาไว้วันหน้าจะมาเล่าให้ฟังอีกนะคะ สวัสดีค่ะ

error: Content is protected !!