“ผีน้ามะลิ” วิญญาณเฮี้ยนคลอดลูกตายที่โคราช
ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าเรื่องนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลจริงๆ โปรดใช้วิจารณญาณ
ปัจจุบันเจ้าของกระทู้อายุ 32 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่หมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา เรื่องเกิดขึ้นเมื่อใกล้เริ่มปี พ.ศ. 2538 ความว่า…
ใกล้ปีใหม่พี่สาวผมส่งจดหมายมาหาพ่อเพื่อบอกว่าจะกลับบ้านช่วงปีใหม่ โดยจะออกจากกรุงเทพฯ ตอนกลางคืน ถึงโคราชแล้วจะต่อรถมาที่หมู่บ้าน ถึงปากทางก็คงใกล้เช้า แล้วจะนั่งรถรับจ้างเข้ามาอีกที
ช่วงนั้นการติดต่อสื่อสารก็ยังคงเป็นจดหมายเท่านั้น ไม่มีโทรศัพท์ใช้กัน แล้วระหว่างกลางเดือนนั้น ‘น้ามะลิ’ ภรรยาของเพื่อนพ่อ แกท้องแก่แล้วเจ็บท้องคลอดตอนกลางคืน ทางผู้ใหญ่ก็พาน้าไปส่งที่โรงพยาบาลทันที
บ้านผมก็อยู่คุ้มเดียวกันกับบ้านน้ามะลิ ซึ่งไม่ไกลกันนัก ลูกแกคลอดเป็นเด็กผู้ชาย ได้ข่าวว่าตัวใหญ่มาก แต่ผมก็ไม่เคยได้ไปดูหน้าน้องเลยสักที และทุกๆ เช้าก็มักจะได้ยินเสียงเด็กร้องจากการตื่นนอนอยู่บ่อยๆ
จนถึงปีใหม่ พี่สาวผมกลับมาจากกรุงเทพฯ แล้วต่อรถมาปากทางเข้าหมู่บ้าน พอลงรถที่ปากทาง พี่สาวก็เจอกับรถขายกับข้าวที่เพิ่งมาจากจ่ายตลาดพอดี เขาจำพี่สาวได้เพราะเป็นคนบ้านเดียวกัน เลยให้ติดรถเข้าหมู่บ้าน ตอนนั้นเป็นเวลาตีสี่กว่าๆ แล้ว ลุงเขาจะมาส่งถึงบ้านแต่พี่สาวเกรงใจ เลยขอลงที่บ้านลุง แล้วบอกว่าจะเดินเข้าบ้านเอง ลุงก็เลยตามใจ
จากบ้านลุงมาบ้านผมก็ไม่ไกลกันนัก ถ้าไปทางลัดจะต้องเดินผ่านสวนของลุง แล้วมาเจอบ้านน้ามะลิ ถัดมาอีก 2-3 หลังก็ถึงบ้านผม พอเดินมาถึงบ้านน้ามะลิ พี่สาวก็ได้ยินเสียงเด็กร้อง เลยเดินเข้าไปใต้ถุนบ้านที่มีแคร่และเปิดไฟสว่างไว้ดวงเดียว วางกระเป๋ากับถุงขนมไว้ที่แคร่ แล้วเดินขึ้นบันไดไปที่นอกชานชั้น 2 พร้อมเคาะประตูเรียกคุณยาย
“แม่พรจ๊ะ..แม่พร” เสียงเด็กหยุดร้องไปครู่หนึ่ง พี่สาวก็เรียกอีก
“น้ามะลิ..อยู่มั้ย” แต่ไม่มีใครเปิดประตูออกมา เลยคิดในใจว่า เดี๋ยวเช้าแล้วค่อยมาเยี่ยมดีกว่า
จังหวะที่จะก้าวลงบันไดก็เหลือบไปเห็นน้ามะลิยืนรออยู่ด้านล่าง พี่สาวก็เลยยกมือไหว้ สวัสดีทักทาย
“มาถึงเมื่อไหร่” น้ามะลิถาม
“เมื่อกี้นี้เองจ้ะ ตะกี้ได้ยินเสียงเด็กร้อง..ลูกใครล่ะ?”
“ลูกฉันนี่แหละ เพิ่งคลอดได้ไม่กี่วันเอง”
จากนั้นพี่สาวก็ไปหยิบกระเป๋า น้ามะลิช่วยถือถุงขนมแล้วบอกว่าจะเดินมาส่งที่บ้าน เพราะกลัวว่าหมาของบ้านหลังถัดไปจะกัดพี่สาวเอาเพราะแปลกกลิ่น พี่สาวก็เดินตามน้ามะลิมาจนถึงบ้าน แต่ผิดคาด ไม่มีเสียงหมาเห่าเลยสักตัว น้ามะลิมาส่งที่ท้ายสวนบ้านผม แล้วบอกกับพี่สาวว่า
“ฉันต้องไปก่อนแล้ว จะรีบไปดูไอ้นาย” แล้วก็แยกกัน
พี่สาวก็เข้ามาเคาะประตูบ้านเรียกพ่อกับแม่ให้เปิดประตูให้ ผมก็พลอยรู้สึกตัวตื่นไปกับเขาด้วย ได้ยินเสียงพี่สาวกับพ่อแม่คุยกัน พ่อถามว่ามายังไง พี่สาวก็เล่าให้ฟังตั้งแต่ต้น พร้อมเรื่องที่ได้ยินเสียงเด็กร้องที่บ้านยายพร จนถึงก่อนจะเข้าบ้านว่า
“น้ามะลิเดินมาส่ง” …พ่อเงียบแล้วถาม
“แล้วมันกลับไปรึยัง?”
“กลับไปแล้ว เห็นบอกว่าจะรีบกลับไปดูลูก”
จังหวะนั้นผมเห็นพ่อหันไปมองหน้าแม่ แล้วก็ดึงตัวพี่สาวเข้าไปกอดแล้วก็ลูบหัว แล้วก็บ่นพึมพำ ประมาณว่า
“ขวัญเอ๊ยขวัญมา…น้ามะลิตายแล้วนะลูก! เมื่อไม่กี่วันก่อน มันคลอดลูกแล้วตาย! นี่ลูกไม่รู้ข่าวเลยเหรอ”
ผมนี่ขนลุกซู่เลยครับ พี่สาวตกใจสั่นหันไปกอดแม่แล้วน้ำตาก็ไหลออกมา แต่ไม่ได้ร้องแบบมีเสียง ทุกคนได้แต่นิ่งเงียบ ทันใดนั้นเสียงหมาก็พากันโก่งคอหอนโหยหวนเลยครับ แล้วก็มีกลิ่นเหม็นมากๆ เข้ามาปะทะจมูก กลิ่นมันเหม็นเน่าจนแทบอ้วก เสียงหมายังหอนไม่หยุด พ่อตะโกนออกไปทางหน้าบ้าน
“มะลิเอ้ย รู้แล้วล่ะ ไปที่ชอบที่ชอบนะ พรุ่งนี้จะใส่บาตรไปให้ดอก”
แล้วสักพักกลิ่นเหม็นก็หายไป เสียงหมาหอนยังดังอยู่ มันโก่งคอหอนรับกันเป็นทอดๆ ตั้งแต่หน้าบ้านผมออกไปเรื่อยๆ จนแทบจะวนรอบหมู่บ้าน ผมนี่กลัวสุดๆ เลยครับตอนนั้น
เช้าวันต่อมาพวกเราก็ไปทำบุญที่วัด เขาก็เล่ากันปากต่อปากถึงเรื่องน้ามะลิ โดยเฉพาะคนที่เพิ่งกลับมาจากกรุงเทพฯ เขาว่าน้ามะลิไปตะโกนเรียกให้ไปเยี่ยมลูกแกที่เพิ่งคลอด แต่หลังจากปีใหม่มาแล้วก็ไม่มีใครได้พบเห็นวิญญาณน้ามะลิอีกเลย
กราบขอขมาดวงวิญญาณของน้ามะลิด้วยนะครับ