ทุกครั้งที่ได้ยินเสียง | เรื่องเล่าเขย่าขวัญ
‘ตึง..ตึง..ตึง..ตึง..ตึง..’
เสียงนาฬิกาไม้โบราณเก่าๆ ร้องบอกเตือนเวลาเมื่อเข็มยาวชี้เลขสิบสอง แม้ว่าจะผ่านมานานแล้ว แต่เวลาฉันได้ยินเสียงนี้ทีไรก็จะทำให้ในหัวประมวลภาพเหตุการณ์ในวันนั้นทุกฉากทุกตอนอย่างแม่นยำ พลันให้ขนลุกขึ้นมาทันที และยังคงสงสัยเกี่ยวกับเหตุการณ์วันนั้นจนถึงปัจจุบันว่า
เธอนั้นเป็นใคร?
มาทำไม?
ต้องการอะไร?
ขอย้อนเวลาไปเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ตอนนั้นฉันอายุเพียงสิบเอ็ดปี บ้านของฉันกับบ้านย่าอยู่ใกล้ๆ กัน บ้านย่าถือว่าเป็นบ้านที่น่ากลัวพอสมควร เพราะเป็นบ้านไม้ใต้ถุนสูง ชั้นล่างเป็นปูน รอบๆ บ้านเป็นป่า ข้างบ้านเป็นหมู่บ้านที่รกร้าง ถัดไปไม่ไกลเป็นสุสานจีน
ตอนนั้นฉันไปเล่นที่บ้านย่าทุกวัน พอกลางคืนต้องรีบปั่นจักรยานกลับบ้านจนขาแทบพันกัน เพราะบรรยากาศน่ากลัวมาก
ในบ้านของย่านั้นมี นาฬิกาไม้โบราณ ที่เสียงดังบอกเวลาน่ากลัวมาก มันถูกแขวนอยู่ และยังมีตู้ไม้ตั้งโชว์ของชำร่วย ซึ่งในตู้มีตุ๊กตาหัวฟู ตาเหลือก หน้าตาน่ากลัว แถมกลางคืนยังชอบเปิดไฟสีส้มสลัวๆ ด้วย เวลาฉันเดินผ่านตรงมุมนั้นทีไรหลอนทุกที
วันหนึ่งได้มีเหตุจำเป็นที่ฉันต้องนอนค้างที่บ้านย่า เนื่องจากพ่อแม่ไม่อยู่บ้าน ฉันนอนที่ห้องของป้า ซึ่งพอเปิดประตูห้องมาก็จะเห็น นาฬิกาไม้โบราณ ที่ตีบอกเวลาเมื่อเข็มยาวชี้เลขสิบสอง ได้ยินกันทั้งบ้านเพราะเสียงดังกังวานมาก ห้องของป้าเล็ก คับแคบ บรรยากาศในห้องน่าอึดอัด ป้านอนบนเตียงเล็กที่นอนได้คนเดียว ฉันเอาผ้านวมปูนอนข้างๆ เตียงป้า
วันนั้นป้าไปสังสรรค์กับเพื่อนตั้งแต่หัวค่ำ ฉันนอนอยู่คนเดียว ไม่หลับสักที ทันทีนั้นเสียงนาฬิกาไม้โบราณร้องเตือนบอกเวลาเที่ยงคืน
‘ตึง..ตึง..ตึง..ตึง..ตึง..’
พลันมีเสียงคนพูดงึมงำอยู่ใกล้ๆ ลืมตาขึ้นมาเห็นผู้หญิงผมยาว ใส่ชุดกระโปรงแขนยาวสีขาว นั่งอยู่ตรงปลายเตียง เธอมองหน้าฉัน หน้าของเธอขาวซีด แววตาดูเศร้าสร้อย ผมดำสนิทยุ่งเหยิงกระเซอะกระเซิง
ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเจอผี ฉันขนลุกซู่ขึ้นมาทันที ตัวแข็งทื่อ ชาไปหมด ฉันเอาผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปง นอนสั่นอยู่อย่างนั้น เธอพูดงึมงำไปเรื่อยไม่หยุด เสียงดังขึ้นเรื่อยๆ แต่จับใจความไม่ได้เลยว่าเธอพูดภาษาอะไร ฟังยังไงก็ไม่รู้เรื่อง
ฉันพยายามสวดมนต์ทุกบทไม่ว่าจะบทไหน เสียงของเธอก็ไม่หาย กลับดังขึ้น ฉันไม่รู้จะทำอย่างไรจึงร้องไห้โฮ สักพักมีคนเปิดประตูเข้ามา มีเสียงพูดว่า
“นอนหรือยังลูก”
เป็นเสียงป้านั่นเอง ฉันดีใจมากรีบเปิดผ้าห่ม ป้าเห็นสีหน้าฉันถามว่าเป็นอะไร ฉันไม่ได้ตอบอะไร เพราะรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เหลือบไปมองบนเตียงก็พบว่า ผู้หญิงคนนั้นหายไปแล้ว!
ฉันมั่นใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ฉันไม่ได้ฝันหรือคิดไปเองอย่างแน่นอน ทุกอย่างที่เห็นเป็นจริงทั้งหมด
รุ่งขึ้นฉันเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ทุกคนฟัง บ้างก็ว่าเป็นผีบ้านผีเรือน บ้างก็ว่ามาขอส่วนบุญ ป้าเองบอกว่าบางคืนรู้สึกแปลกๆ รู้สึกว่าที่นอนมันยุบลงเหมือนมีคนมานั่ง แต่ไม่ได้คิดอะไร ฉันทำบุญกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลไปให้เธอเรียบร้อยแล้ว นับตั้งแต่วันนั้นฉันมีโอกาสไปนอนที่ห้องป้าหลายครั้ง แต่ไม่เคยเจอเธออีกเลย
ต่อมาฉันได้มีโอกาสอ่านหนังสือธรรมะของหลวงพ่อชื่อดังท่านหนึ่ง ในหนังสือมีหัวข้อเกี่ยวกับวิญญาณเขียนไว้ว่า วิญญาณส่วนมากใส่ชุดสีขาวเป็นเพราะว่าเขามีจิตที่บริสุทธิ์แล้ว การมาปรากฏตัวให้เห็นมีหลายสาเหตุ มีอยู่ประโยคหนึ่งบอกไว้ว่า เราจะฟังเสียงเขาไม่รู้เรื่อง เพราะวิญญาณกับมนุษย์นั้นอยู่คนละโลกกัน
ปัจจุบันบ้านของย่าถูกรื้อและสร้างใหม่ทั้งหมด แต่นาฬิกาโบราณเรือนนั้นยังอยู่ บริเวณรอบๆ บ้านไม่น่ากลัวเหมือนก่อน ไม่มีป่ารกร้าง มีทั้งหมู่บ้าน คอนโด แถวนั้นเจริญมาก ถึงฉันกับพ่อแม่จะย้ายจากบริเวณนั้นมาอยู่บ้านใหม่ แต่พวกเรายังแวะเวียนไปเยี่ยมย่าอยู่เป็นประจำ
และทุกครั้งที่ฉันได้ยินเสียงนาฬิกาเรือนนี้ ภาพในคืนนั้นก็ผุดขึ้นมาในหัวตลอด..