“เห็นแมวป้ามั้ย?” | สยองในหอพักย่านประชาสงเคราะห์

เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ตรงของ คุณชัช เกิดขึ้นที่หอพักแห่งหนึ่งแถวประชาสงเคราะห์ เมื่อประมาณแปดปีที่ผ่านมา

เรื่องมีอยู่ว่า คุณชัชต้องเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ระยะหนึ่ง เขาจึงตัดสินใจเช่าหอพักอยู่ โดยห้องข้างๆ ก็จะเป็นป้าแก่ๆ คนหนึ่งอาศัยอยู่ แล้วหอพักนี้จะพิเศษอยู่อย่างหนึ่งตรงที่เขาอนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ และป้าคนนี้ก็เลี้ยงแมวเอาไว้ตัวหนึ่ง

เวลาผ่านไปเดือนแรกทุกอย่างเป็นปกติสุข ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนช่วงเดือนที่สองคุณชัชงานยุ่งต้องอยู่ออฟฟิศจนดึกดื่น พอกลับมาถึงหอก็จะเจอป้าคนนี้ให้อาหารแมวบ้าง วิ่งไล่จับแมวบ้าง เวลาเดินผ่านป้าก็จะทักว่า

“เป็นยังไงบ้างลูก เหนื่อยมั้ยวันนี้”

แกจะทักทายแบบนี้อยู่ตลอด แล้วพอคุณชัชเข้าห้องไปอาบน้ำก็จะได้ยินเสียงป้าแกอาบน้ำพร้อมๆ กัน บางทีก็ได้กลิ่นสบู่โชยมาจากห้องแก พออาบน้ำเสร็จคุณชัชก็ออกไปสูบบุหรี่ตรงระเบียงหลังห้อง ก็จะเจอป้าแกมายืนอยู่ ก็มีทักทายกันบ้าง ทำอยู่อย่างนี้จนกลายเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว

จนวันหนึ่งคุณชัชหยุดงานอยู่ที่ห้อง แล้วออกไปสูบบุหรี่ที่ระเบียง ก็ได้เห็นว่าหอฝั่งตรงข้ามเอายันต์มาติดไว้ที่กระจกหลังห้องของเขา โดยหันหน้าแผ่นยันต์มาทางห้องคุณชัช เนื่องจากว่าช่วงที่งานเริ่มเยอะคุณชัชก็ไม่เคยได้ออกมาดูดบุหรี่ตอนกลางวันแบบนี้ เขาเลยไม่เคยจะสังเกตเห็นสิ่งนี้มาก่อน

คุณชัชก็ได้แต่สงสัย แต่ก็คิดว่าห้องนั้นคงมีคนตายเขาเลยเอายันต์มาติดล่ะมั้ง แต่ก็ไม่ได้ติดใจหรือสงสัยอะไรไปมากกว่านั้น

เวลาผ่านไปอีกอาทิตย์หนึ่ง คุณชัชก็ยังเจอป้าแกอยู่ ไล่จับแมว ให้อาหารแมว ยังทำเรื่องซ้ำๆ เดิมๆ อย่างที่แกเคยทำ จนวันหนึ่งป้าก็มาถามคุณชัชว่า

“พ่อหนุ่ม..เห็นแมวป้าหรือเปล่าลูก”

“ไม่เห็นครับป้า มันแอบไปวิ่งเล่นอยู่ข้างนอกหรือเปล่า”

“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นไร..ไม่เป็นไร” ป้าแกว่า ก่อนจะเดินกลับเข้าห้องไป

พอมาอีกวันหนึ่ง คุณชัชก็กลับมาถึงหอตอนประมาณตีหนึ่ง ก็เจอแมวของป้าแกอยู่ตรงชานพักบันได คุณชัชก็เลยไปอุ้มแมวกะว่าจะเอาไปให้ป้า เจ้าแมวตัวนั้นก็เชื่อง ยอมให้คุณชัชจับแต่โดยดี

แต่พอเดินมาถึงประตูหน้าห้องของป้า จู่ๆ แมวตัวนั้นมันก็ดิ้นเหมือนพยายามจะหนี ขู่ฟ่อๆ แล้วมันก็ข่วนคุณชัช สุดท้ายมันก็ดิ้นหลุดมือไป พอแมวหนีไปป้าก็เปิดประตูออกมาดู คุณชัชเลยเล่าให้ฟังว่าจะจับแมวมาให้แต่แมวมันหนีไปแล้ว ป้าก็บอกว่า

“ไม่เป็นไรลูก..ไม่เป็นไร”

แล้วแกก็ปิดประตูกลับเข้าห้องไป

สุดสัปดาห์นั้นคุณชัชก็ได้หยุดอีก ก็ออกไปซื้อกับข้าวกับปลาจะมาทำกิน พอกลับมาก็เจอพี่ที่ขายของอยู่แถวนั้นแกกำลังขนของจะย้ายออก คุณชัชเลยเข้าไปทักว่า

“อ้าว จะย้ายออกเหรอพี่ โหเสียดาย เราอุตส่าห์รู้จักกัน สนิทกันแล้ว”

“ไอ้ชัช! แกจะอยู่ได้ยังไงวะ นี่แกไม่รู้อะไรเลยเหรอ ป้าข้างห้องแกน่ะตายแล้วนะ!”

“จะบ้าเหรอพี่! คืนก่อนผมยังเห็นแกดีๆ อยู่เลยนะ!”

“เฮ้ย! ป้าแกตายไปเดือนกว่าแล้วนะ แล้วตอนที่แกตายน่ะศพแกอยู่ในห้องตั้งอาทิตย์นึง กลิ่นนี่เหม็นตลบอบอวลไปทั้งหอเลย ห้องติดกันขนาดนี้แกไม่ได้กลิ่นเลยเหรอวะ!”

คุณชัชถึงกับอึ้ง แปลกใจมากเพราะเขาไม่เคยได้กลิ่นอะไรอย่างว่าเลย แล้วจังหวะนั้นลุงยามก็เดินเข้ามาพอดี พี่คนนั้นเลยบอกว่า

“ถ้าแกไม่เชื่อพี่นะ ลองถามลุงยามดูสิ”

คุณชัชลองถามเพื่อความแน่ใจ และสิ่งที่ลุงยามตอบกลับมาก็คือ

“ลุงก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมหนุ่มถึงทนอยู่ได้!”

คุณชัชก็ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ ตอนนั้นเขาคิดว่าสองคนนี้คงรวมหัวกันอำเล่นหรือเปล่า แต่พอคุยไปคุยมา ลุงยามเลยเปิดโทรศัพท์มือถือให้ดูรูปป้าคนนั้น ซึ่งในรูปที่เห็นก็คือป้าแกจริงๆ แต่เป็นศพที่อยู่ในสภาพขึ้นอืด!

“คนที่งัดประตูเข้ามาเจอศพป้าแกก็เป็นลุงนี่แหละ” ลุงยามว่า

วินาทีนั้นคุณชัชถึงกับช็อก ขนลุกวาบไปทั้งตัว สิ่งแรกที่คิดได้คือยันต์ที่หอตรงข้าม! เขาติดเอาไว้เพราะสาเหตุนี้หรือเปล่า พอดีกับที่เจ้าของห้องที่ติดยันต์เดินผ่านมาพอดี เขาจะขึ้นไปหาเพื่อนเขา ลุงยามเลยเรียกไว้แล้วลากเข้าสู่วงสนทนา

เจ้าของห้องนั้นเล่าให้ฟังว่า ตอนที่ป้าแกตายใหม่ๆ พี่เขาเห็นป้าแกเดินไปมาอยู่ในห้อง แล้วทุกครั้งที่ห้องคุณชัชเปิดไฟ ห้องของป้าก็จะเปิดไฟเหมือนกัน แล้วก็จะได้ยินเสียงป้าแกปิดประตูเข้าห้องน้ำ แล้วพอคุณชัชออกไปดูดบุหรี่ก็จะเห็นเหมือนคุณชัชพูดกับใครอยู่ก็ไม่รู้ ด้วยความกลัวเขาเลยเอาผ้ายันต์มาปิดไว้

คืนนั้นคุณชัชอยู่ด้วยความหวาดผวา ภาวนาในใจขออย่าให้ป้ามาหลอกหลอนอีกเลยเพราะคุณชัชยังไม่อยากย้าย แต่จนแล้วจนรอดคุณชัชก็ทนไม่ไหวและได้ย้ายออกในที่สุด เพราะหลังจากนั้นผ่านมาแค่คืนเดียว ป้าก็มาเคาะประตูห้อง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือกชวนขนหัวลุกว่า “หนุ่ม..เห็นแมวป้ามั้ยลูก..”

และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด

error: Content is protected !!