สยองรีสอร์ตที่อัมพวา | เรื่องเล่าเขย่าขวัญ
ต้องบอกก่อนว่าเราเป็นคนกลัวผีมาก ๆ แต่ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์อะไรพวกนี้เลย เรื่องนี้น่าจะเป็นครั้งแรกที่เราเจอเหตุการณ์แปลก ๆ
เรื่องนี้เกิดประมาณเดือนตุลาคม พ.ศ. 2559 ทางบริษัทที่เราทำงานอยู่ไปจัดกิจกรรมกันที่อัมพวา จ.สมุทรสงคราม วันเดินทางเราและเพื่อน ๆ ที่ทำงานก็นั่งรถตู้ไปจากที่สำนักงาน (สระบุรี) แล้วไปเจอกับสำนักงานใหญ่ (กรุงเทพฯ) กินอาหารกลางวันกันเสร็จก็ตรงไปที่พักเลย ทางเข้าจะลึกหน่อย ผ่านดงมะพร้าว สวนของชาวบ้าน พักใหญ่ ๆ ก็มาถึงรีสอร์ต
โดยรีสอร์ตจะอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง ลักษณะที่พักจะเป็นตึก 2 ชั้น แล้วแยกเป็นห้อง ๆ ไป เราได้นอนกับน้องผู้หญิงอีกคนหนึ่ง (ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมากว่าเรากับน้องคนนี้เกิดวันที่เดียวกัน เดือนเดียวกัน แต่คนละปี) เราพักกันที่ชั้น 2 ห้องจะเป็นเตียงคู่ คือเปิดประตูมาขวามือจะเป็นห้องน้ำ แล้วถัดมาเป็นเตียงนอน 2 เตียง เรานอนติดระเบียง น้องนอนฝั่งติดห้องน้ำ
วันแรกก็พักผ่อนกันไป กินอาหารเย็นเสร็จ ค่ำ ๆ พวกเราก็มานั่งเล่นในห้องสักพักก็เตรียมตัวอาบน้ำนอนกัน ประมาณ 4-5 ทุ่ม พวกเราก็ปิดไฟนอน เปิดไฟหน้าห้องน้ำไว้ดวงหนึ่งสีส้ม ๆ ก่อนนอนเรากับน้องก็สวดมนต์ไหว้พระบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง แล้วก็หลับกันไป
แล้วเราก็ฝัน ฝันว่าเรานอนอยู่ในห้องนั้นแหละ นอนกับน้องคนนี้ด้วย ในฝันเรานอนไม่ค่อยหลับ เหมือนโดนอำโดนกวน เราเลยตื่นขึ้นมาแล้วเรียกน้อง บอกว่า (สมมติชื่อเอ) “เอ…เอ…” ยังไม่ทันพูดอะไรน้องมันก็ลืมตายิ้ม ๆ ละบอกว่าเป็นไรนอนไม่หลับเหรอ เราเลยบอก อือ น้องมันเลยบอกว่า เอ้านี่พระ น้องก็ยื่นเหรียญพระมาให้
เราก็รับพระมาจากน้องแล้วก็กำพระไว้ในมือ ขดตัวนอนหันข้างซ้ายไปทางที่น้องนอนอยู่ กำพระไว้ใต้หมอน รู้สึกอุ่นใจละ (อันนี้คือที่เราฝันทั้งหมดนะ)
สักพักเราตื่นขึ้นมาเพราะปวดฉี่ เรานอนหงายปกติ ในมือไม่มีอะไร เราก็แบบ เฮ้ย! ฝันเหรอ ทำไมเหมือนจริงมาก เราเลยเดินไปฉี่แล้วกลับมานอน พอเคลิ้ม ๆ หน่อยกำลังจะหลับ ทีนี้ล่ะ เราได้ยินเสียงคนกรีดเล็บกับที่นอนฝั่งติดกับหัวนอนเรา!
คือเรานอนหงายนะ แล้วเสียงกรีดเล็บมาจากทางขวา เสียงใกล้หูเรามากกก ใครนึกไม่ออกลองเอาเล็บกรีดที่นอนหรือหมอนดู เสียงดัง “แควก…แควก…” ตอนแรกก็ช้า ๆ เราก็แบบอึดอัดเหมือนโดนอำ คือขนคอลุกไปหมด ตัวแข็ง ตอนแรกเราพยายามจะเออปล่อยไปละหลับต่อ แต่คือเสียงกรีดเล็บดังรัว ๆ เลยทีนี้ เหมือนไม่อยากให้เรานอน “แควก! แควก! แควก!” เสียดแก้วหูมาก เราก็ดิ้น ๆ จนหลุดจากตรงนั้น
ลืมตาขึ้นมาแบบกลัวมาก ร้อนเลยทั้งที่เปิดแอร์ เหงื่อแตก หยิบโทรศัพท์มาดูเวลาตีสามกว่า เลยไลน์ไปหาแฟน บอกว่าเหมือนจะโดนเข้าให้แล้ว แต่ยังไม่กล้าเล่า แฟนบอกให้ปลุกน้องเอ เราก็เกรงใจน้อง น้องหลับสนิทเลย
แต่ความกลัวมากกว่าเราเลยเรียกน้องเบา ๆ น้องก็งัวเงียตอบมา เราเลยบอกว่าพี่นอนไม่หลับขอเปิดทีวีนะ ยังไม่กล้าเล่า กลัวน้องจะกลัว ก็เปิดทีวีทิ้งไว้เบา ๆ แล้วนอนเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อย ๆ เราก็ไม่กล้าหลับเลยกลัวมาก ประมาณตีห้าได้มั้งเราถึงงีบไปหน่อยนึง
ตื่นเช้ามาก็อาบน้ำกันเตรียมตัวไปทำกิจกรรม ระหว่างนั้นเราก็เลยเล่าให้น้องฟังว่าเราฝันแบบนี้ ได้ยินเสียงแบบนี้นะ น้องก็บอกว่า “จริงเหรอพี่! หนูก็ฝัน!!”
น้องฝันว่านอนอยู่ในห้องนั้นแหละ นอนกับเราแบบนั้นเป๊ะ แต่น้องเห็นเราคุยกับผู้หญิงอยู่บนเตียงนั้น เหมือนคนรู้จักกัน ดูยิ้มแย้มดี รู้สึกว่าผู้หญิงคนนั้นจะนอนอยู่กับเราด้วยถ้าจำไม่ผิด
แล้วสักพักใหญ่ก็เห็นว่าในห้องมีคนแก่ทั้งชายหญิงแล้วก็เด็กมาชะโงกมองพวกเราที่นอนอยู่จากหน้าห้องน้ำ คือพวกเขาไม่ได้เลยจากเขตนั้นมาบริเวณเตียงเลย น้องก็กลัวและคิดว่าต้องไม่ใช่คนแน่ ๆ เลยบอกไปว่าอย่าเข้ามาทำอะไรพวกเราเลย เดี๋ยวทำบุญไปให้ สักพักพวกเขาก็หายไป
น้องบอกว่าตอนที่เราเรียก น้องก็ฝันแล้ว และคิดว่าเราต้องเจออะไรแน่ ๆ แต่ยังไม่กล้าถามเหมือนกัน ต่างคนต่างกลัวว่าอีกฝ่ายจะกลัว เรานี่ขนลุกเลย
วันนั้นตอนเช้า เรื่องเราก็เป็นเรื่องเม้าท์กันให้แซ่ดของคนที่บริษัท เล่าเป็นสิบ ๆ รอบ เราเลยพากันไปขอธูปเทียนจากคนงานรีสอร์ตแล้วไปไหว้ศาลพระภูมิ ที่แปลกคือ ที่นี่มีศาลเจ้าแม่อะไรสักอย่าง มีชุดไทยแขวนไว้เพียบเลย เราก็ไปไหว้ด้วย
วันนั้นก็ทำกิจกรรมกันไป ตอนเย็นไปล่องเรือดูหิ่งห้อยกับเที่ยวตลอดอัมพวา พอกลับมาก็ยังหวั่น ๆ แต่ก็เอาน่าไหว้แล้วอะไรแล้ว เราไม่ได้หลบหลู่ คืนนั้นก็ไม่มีอะไร แต่อาจจะเพราะเรากลัวเลยนอนไม่ค่อยหลับ หลับ ๆ ตื่น ๆ จนเช้าก็เดินทางกลับกัน
แต่เราก็ไม่ได้คิดจะไปสืบหาที่มาที่ไปอะไรนะคะ เพราะคิดว่าเราเป็นคนต่างถิ่นที่ไปอาศัยอยู่ เขาอาจจะมีเจ้าที่เจ้าทางหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดูแลอยู่ เราว่าเราไม่ไปก้าวก่ายดีกว่า ห้องที่เรานอนเลขห้อง 211 ค่ะ ห้องสวยดี แต่ไม่คิดว่าจะมีของแถม
ขอขอบคุณที่มา: พันทิปดอทคอม