“ผีเฝ้าคลองประปา” สะพรึง! พรายน้ำในคลองสามเสน
หลังจากที่ผมเกษียณอายุราชการได้ไม่นาน ผมก็พาครอบครัวย้ายมาอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ตอนนี้ก็เกือบสองปีแล้ว แต่ทุกวันนี้ผมยังไม่เคยลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเกือบสี่สิบปีที่แล้ว สมัยที่ผมเพิ่งเรียนจบใหม่ ๆ และสอบเข้ารับราชการที่หน่วยงานแห่งหนึ่งย่านสามเสน ผมกับเพื่อนก็เลยมาเช่าห้องอยู่ใกล้ ๆ ที่ทำงาน ก็ย่านริมคลองประปานั่นเอง
ทว่าพูดถึงคลองประปาขึ้นมาทีไร ผมก็อดที่จะขนลุกไม่ได้ เพราะประสบการณ์สยองขวัญที่ผมจะเล่าให้ฟังต่อจากนี้นั้น มันก็ได้เกิดขึ้นที่นี่!
คนกรุงเทพฯ ในสมัยก่อนรู้จักคลองประปาเป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะเป็นคลองระบายน้ำแล้ว คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ยังใช้น้ำบริเวณนี้ในการหุงหาอาหาร ดื่มกิน และใช้ชำระล้างร่างกายอีกด้วย ทั้งที่สมัยก่อนเจ้าหน้าที่ของทางราชการจะนำป้ายมาปักไว้ ไม่ให้ลงไปเล่นน้ำในบริเวณคลองประปา แต่ทว่าก็ยังมีคนที่ฝ่าฝืนลงไปว่ายน้ำเล่นอยู่ดี
เหตุที่เจ้าหน้าที่เขาห้ามไม่ให้ประชาชนลงไปเล่นน้ำบริเวณนี้ เพราะมีข่าวว่าคนประสบอุบัติเหตุจมน้ำตายเป็นจำนวนมาก เขาคงกลัวว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยอีก
ช่วงแรก ๆ ที่เจ้าหน้าที่เขาเอาป้ายไปปักไว้ ผมก็เห็นว่าไม่ค่อยมีใครลงไปเล่นน้ำบริเวณนั้นเท่าไหร่ แต่พอนานเข้าก็เริ่มไม่มีใครสนใจป้ายประกาศอีกต่อไป ยังคงลงไปเล่นน้ำกันอย่างสบายใจ
ผมกับเพื่อนเอง พอถึงวันหยุดก็ชอบชวนกันไปว่ายน้ำแถวนั้นเหมือนกัน สมัยนั้นบริเวณริมคลองประปายังไม่มีรถยนต์แล่นพลุกพล่านเหมือนอย่างในปัจจุบัน บรรยากาศสองข้างทางจึงค่อนข้างดูน่ากลัวอยู่สักหน่อย ผมจำได้ว่าวันนั้นที่ผมลงไปเล่นน้ำกับเพื่อน มันก็ใกล้จะมืดแล้ว อากาศก็เริ่มเย็นลง ยิ่งน้ำในคลองด้วยแล้วไม่ต้องพูดถึง เย็นจับขั้วหัวใจเลยเชียว
ผมเลยบอกเพื่อนไปว่าให้รีบ ๆ อาบเพราะน้ำเย็นแบบนี้มีสิทธิ์เป็นตะคริวได้ง่าย หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ผมกับเพื่อนก็กระโจนลงไปในน้ำทันที พร้อมกับดำผุดดำว่ายอย่างสนุกสนาน เวลาผ่านไปไม่นาน จู่ ๆ เพื่อนผมก็ร้องตะโกนขึ้นมา
“เฮ้ย! อะไรเกี่ยวขากูวะ!”
ผมหันไปทางเพื่อน ก็เห็นเขากำลังสะบัดขาไปมาอยู่ใต้น้ำ เหมือนกับพยายามจะเอาบางอย่างออกไป ผมเลยถามเขาว่าเป็นอะไร เขาก็ยังบอกเหมือนเดิมว่ามีอะไรเกี่ยวขาเขาอยู่ไม่รู้
ผมเลยบอกให้เพื่อนรีบว่ายเข้าฝั่ง แต่เขากลับไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เขาบอกว่าตอนนี้ขาเขาแทบจะไม่มีแรงแล้ว ผมเลยต้องว่ายไปหาเขาและลากตัวเขาเข้าฝั่งทันที ตอนนั้นผมต้องออกแรงค่อนข้างมาก ทั้งที่เพื่อนก็ตัวเล็กกว่าผม แต่ขณะที่ผมกำลังพยายามดึงตัวเพื่อนให้มาอีกทางอยู่นั้น ก็รู้สึกเหมือนกับมีใครดึงเขาให้กลับไปทุกที แต่ในที่สุดผมก็สามารถลากเพื่อนเข้าฝั่งจนได้
ผมกับเพื่อนขึ้นมานั่งหอบอยู่บนฝั่งสักพักหนึ่ง เพื่อนผมก็ยกขาของเขาขึ้นดู เพราะอยากรู้ว่ามันคืออะไรที่เกี่ยวขาของเขาไว้ แต่แล้วพวกเราก็ต้องตกใจสุดขีด เพราะที่ขาของเพื่อนผมมีรอยเขียวเป็นจ้ำ ๆ ปรากฏให้เห็นอยู่หลายจุดเลยทีเดียว แถมพอลองมองดี ๆ ก็เห็นว่ารอยเขียว ๆ ที่ว่ามันช่างเหมือนกับรอยนิ้วมือของคนยังไงยังงั้นเลย
ตอนนั้นใบหน้าของเพื่อนผมเริ่มซีดเผือดลงอย่างเห็นได้ชัด อย่าว่าแต่เขาเลยครับ ตัวผมเองก็ตกใจไม่แพ้กัน ผมละล่ำละลักถามเพื่อนไปว่า ตอนที่เขารู้สึกเหมือนกับมีอะไรมาเกี่ยวขาเขาไว้นั้น เขามองเห็นหรือเปล่าว่ามันคืออะไร
เพื่อนผมก็พยายามนึก และบอกว่าตอนแรกเขารู้สึกเหมือนมีอะไรลื่น ๆ ปัดไปปัดมาอยู่บริเวณขาของเขา แต่สักพักก็หายไป เพื่อนของผมก็เลยว่ายน้ำต่อไม่ได้สนใจอะไร แต่พอว่ายไปได้สักพักก็เหมือนมีอะไรมาดึงขาเขาไว้ เพื่อนผมบอกว่าเขาพยายามว่ายน้ำต่อแต่ก็ว่ายไปได้ไม่ไกล เพราะเจ้าสิ่งที่ว่านั้นมันพยายามดึงเขาให้ถอยหลังกลับไปทุกที และพอเพื่อนของผมหยุดว่าย เจ้าสิ่งที่ว่านั้นก็ยังพยายามฉุดเขาให้ลงไปใต้น้ำ ยังดีที่เพื่อนผมเขาว่ายน้ำแข็งพอสมควร เลยสามารถตะเกียกตะกายขึ้นมาได้ แต่ก็เล่นเอาสำลักน้ำไปหลายอึก
ตอนแรกเพื่อนผมเขาก็นึกว่าเขาเป็นตะคริว ซึ่งขามันก็น่าจะชาและไม่มีความรู้สึกอะไร แต่เพื่อนผมกลับรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจับขาของเขาอยู่ เขาก็เลยพยายามสะบัดขาไปมาเพื่อให้เจ้าสิ่งที่ว่านั้นหลุดออกไป แต่ก็ดูเหมือนจะไม่เป็นผล จนเขาเริ่มอ่อนแรงลงในที่สุด ยังดีที่เขายังสามารถตะโกนเรียกชื่อผมออกมาได้ ไม่งั้นผมว่าเขาอาจจะกลายเป็นผีเฝ้าคลองประปาไปอีกคนแล้วก็ได้
หลังจากเกิดเรื่องในวันนั้นแล้ว ผมกับเพื่อนก็ไม่กล้าไปว่ายน้ำที่คลองประปาอีกเลย แต่ก็ได้ยินชาวบ้านเขาพูด ๆ กันว่า มีคนจมน้ำตายที่คลองประปาอีกแล้ว คราวนี้รู้สึกว่าผู้เคราะห์ร้ายจะเป็นคนหาของเก่าหรือยังไงนี่แหละ เพราะมีคนเห็นรถซาเล้งคันหนึ่งจอดอยู่แถวนั้นหลายวัน ก็ยังไม่มีใครมาแสดงตัวเป็นเจ้าของ ก็เลยคาดว่าน่าจะเป็นของคนตาย
ตำรวจก็สันนิษฐานว่า ผู้ตายคงจะลงไปเล่นน้ำในคลอง แต่ไม่รู้ไปทำอีท่าไหนถึงได้จมน้ำตาย แต่ชาวบ้านเขาก็ยังพูดกันต่อ ๆ มาอีกว่า อาจจะเป็นฝีมือของผีพรายที่อาศัยอยู่ในบริเวณคลองประปาก็ได้ เขาว่ากันว่าวิญญาณของคนที่ตายไปแล้วจะกลายเป็นผีพรายและอาศัยอยู่บริเวณนั้น เวลาที่ใครลงไปเล่นน้ำ ผีพรายก็จะคอยฉุดดึงขาเอาไว้ ถ้าใครว่ายน้ำไม่แข็งจริง ๆ ก็อาจมีสิทธิ์จมน้ำตายได้
แล้วอีกอย่างตอนที่พวกเขาไปดูศพของชายคนนั้น ยังเห็นเลยว่าที่ข้อเท้าของเขามีรอยจ้ำ ๆ สีเขียวอยู่หลายจุดเลยทีเดียว แถมบริเวณที่พบศพยังมีรอยดินยุบลงไปเล็กน้อย ขนาดกว้างประมาณตัวคน แต่รอยมันไถลยาวลงไปถึงผิวน้ำเลยทีเดียว มองดูแล้วเหมือนกับมีใครถูกลากลงไปในน้ำยังไงยังงั้น
พอผมกับเพื่อนได้ยินดังนั้น ก็เลยนึกถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดกับเพื่อนผมขึ้นมาทันที หรือที่ชาวบ้านเขาพูดกันจะเป็นความจริง เพราะจนถึงทุกวันนี้ ผมกับเพื่อนก็ยังหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้เลยว่า รอยจ้ำสีเขียวที่คล้ายกับรอยนิ้วมือคนที่ปรากฏอยู่บนขาของเพื่อนผมนั้น มันคือรอยนิ้วมือของใครกันแน่…