เลี้ยงหัวขาด – เรื่องเล่าสยองขวัญ

เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับแม่และยายของเรา ตั้งแต่สมัยที่แม่ยังไม่ได้แต่งงานกับพ่อ ตาและยายได้พาครอบครัวไปทำมาหากินในกรุงเทพฯ แถวๆ บางนา โดยแต่ละคนก็จะแยกกันไปทำงานตามที่ตนถนัด เพื่อช่วยกันหารายได้เข้าบ้าน

ยาย แม่และน้าสาวก็ได้อาศัยทางเท้าริมถนนที่มีผู้คนพลุกพล่านในการขายอาหารตามสั่ง

แต่ก็อย่างที่ทราบกันดีว่าการขายของบนทางเท้านั้นเป็นเรื่องผิ ดกฎหม าย ยายจึงเลือกที่จะไปตั้งร้านแต่เช้าตรู่ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเทศกิจจับกุมและยึดข้าวของไป ลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นคนเข้างานเช้ากับออกจากกะดึกมา

แม่ ยายและน้าสาวจะเดินเท้าออกจากบ้านเช่าในเวลาตีสี่กว่าๆ ผ่านหน้าวัดบางนาเป็นประจำทุกวัน (แม่บอกว่าไม่แน่ใจว่าเป็นวัดบางนานอกหรือใน)

อยู่มาวันหนึ่ง น้าสาวเกิดป่วยเป็นไข้หวัดไม่สามารถไปช่วยงานที่ร้านได้จึงเหลือแค่แม่กับยาย ในวันนั้นแม่กับยายเลือกที่จะออกจากบ้านในเวลาตีสามครึ่ง เพราะเหลือกันแค่สองคนก็จะต้องใช้เวลาตั้งร้านนานกว่าเดิม

วันนั้นเป็นคืนเดือนหงาย แม่เล่าว่า ระหว่างทางไม่มีผู้คนผ่านไปผ่านมาสักคน เสียงหมาเห่าหอนก็ดังมาเป็นระยะๆ ในใจตอนนั้นแม่นึกกลัวทั้งคนและผี จนกระทั่งสองแม่ลูกเดินเข้าเขตวัดบางนา แม่เห็นผู้ชายใส่เสื้อสีขาวเดินอยู่ด้านหน้าห่างออกไปประมาณห้าสิบเมตร

“น้องชายๆ เดินรอด้วย”

ด้วยความปากไวแม่รีบเรียกชายหนุ่มคนนั้นทันทีที่เห็น ในใจหวังเพียงว่าตนจะได้มีเพื่อนเดิน

“นาง…พูดกับใครน่ะ”

ยายมองไปรอบๆ แล้วไม่พบใครเลย จึงถามแม่ด้วยความสงสัย

“นั่นไงแม่ ผู้ชายใส่เสื้อขาวๆ เดินอยู่ข้างหน้า ไปๆ รีบเดินเข้า เค้าหยุดรอเราแล้ว”

แม่ชี้ไปที่ชายคนดังกล่าวพร้อมบอกให้ยายรีบเร่งฝีเท้า สองแม่ลูกถือของกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามชายคนดังกล่าวไป แต่พอเดินเข้าไปใกล้ๆ ชายคนนั้นกลับเร่งฝีเท้าหนี พอเริ่มจะถอดใจว่าคงเดินตามไม่ทันแล้ว แต่ชายคนนั้นกลับหยุดรอ เป็นอย่างนี้อยู่สองถึงสามรอบ

ในตอนแรกยายคิดว่าแกคงตาไม่ดีจึงมองไม่เห็นชายคนดังกล่าว แต่ช่วงหลังๆ แกเริ่มตะหงิดใจเพราะตลอดทางที่เดินผ่านมา หมาจะหอนนำหน้าไปตลอด จนกระทั่งมาถึงทางออกถนนใหญ่ที่มีแสงไฟส่องสว่างจากบ้านคนและไฟรายทางของถนน

“แม่! มันไม่ใช่คน มันไม่มีหัว!!”

แม่ร้องสุดเสียงเมื่อเห็นว่าชายเสื้อขาวไม่มีคอตั้งอยู่บนบ่า ก่อนที่ชายคนนั้นจะหายวับไปกับตา

“อย่าพูดๆ รีบเดิน!” ยายรีบดึงมือแม่เราเดินตัวปลิว

สองคนแม่ลูกกลั้นใจเดินต่อจนถึงที่ตั้งร้าน พอสายๆ หน่อยแม่ค้าคนอื่นๆ ก็เริ่มมาตั้งร้าน แม่เลยไปเล่าเหตุการณ์ที่เจอมาให้ยายอิ่มฟัง ซึ่งแกเป็นแม่ค้าขายขนมอยู่ร้านข้างๆ ยายอิ่มแกขายของอยู่ตรงนั้นนานแล้ว พอได้ยินที่แม่เล่าแกก็ทำตาโตทันที

ยายอิ่มแกบอกว่า ผีหัวขาดที่แม่เจอคือ “เลี้ยง” เด็กนักเรียนช่างบ้านอยู่ในซอยวัด เมื่อหลายปีก่อนขณะที่เขาเดินข้ามถนนเพื่อจะไปสอบปลายภาคซึ่งเป็นเทอมสุดท้ายก่อนจะจบการศึกษาชั้น ปวช. เลี้ยงถูกรถที่ขับมาด้วยความเร็วสูงพุ่งชนอย่างจัง ชายหนุ่มในชุดนักศึกษาคอขาดกระเด็นออกจากร่างในทันที แขนขาหักผิดรูปผิดร่าง สภาพศ พเป็นที่น่าเวทนา

ช่วงที่เลี้ยงตา ยใหม่ๆ มีคนถูกหลอกกันเยอะ แต่พักหลังมาไม่เห็นว่ามีใครเจอ ยายอิ่มแกก็นึกว่าเจ้าเลี้ยงไปเกิดแล้ว แต่ที่ไหนได้!

เลิกจากขายของในวันนั้นแม่กับยายก็ไปทำบุญให้วิญญาณของ “เลี้ยง” ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้นจู่ๆ ก็มีคนมาชวนให้แม่กับยายไปเซ้งหน้าร้านในราคาถูก และนับจากวันนั้นมาแม่กับยายก็ไม่ต้องขายของแบบหลบๆ ซ่อนๆ อีกต่อไป

ขอขอบคุณที่มา: ผีหัวขาด มาขอส่วนบุญ

error: Content is protected !!