รีสอร์ตหลอน | เรื่องเล่าสยองขวัญ
ปกติผมเป็นคนทำงานโรงแรมครับ เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อสี่ปีที่แล้ว ตอนนั้นผมได้ย้ายออกจากกรุงเทพฯ แล้วไปทำงานที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งทางภาคใต้ ซึ่งเป็นรีสอร์ตที่สวยมาก ๆ แต่ขออนุญาตไม่บอกจังหวัดนะครับ
ตำแหน่งที่ผมทำจะเป็นตำแหน่งที่ต้องใกล้ชิดกับแขก ดูแลแขกโดยตรง บางที่เรียก บัตเลอร์ บางที่เรียก วิลล่า โฮสต์ หรือ รีสอร์ต โฮสต์ แล้วแต่จะเรียก ปกติแขกที่มาพักที่นี่จะได้ วิลล่า โฮสต์ ทุกหลัง แขกที่เข้าพักแต่ละวันจะถูกกำหนดโฮสต์ขึ้นมาแล้ว ว่าใครจะเป็นคนดูแล
ซึ่งวิลล่าก็คือบ้านพักแบบส่วนตัวที่แยกออกมาจากโซนอื่น ๆ ครับ
วันนั้นแขกที่ผมดูแลเป็นแขกที่มาฮันนีมูนกัน เขาจะได้ไวน์ฟรี และผมต้องเตรียมไว้ให้แขกก่อนที่แขกจะมาถึง รีสอร์ตเป็นแนวออกป่า ๆ ต้นไม้เยอะ ตัวรีสอร์ตอยู่ใกล้ป่ายางด้วยครับ ผมรู้แล้วว่าแขกจะมาเช็คอินหลังจากเราเลิกงาน ซึ่งปกติผมจะเลิกสี่ทุ่ม ผมเลยตั้งใจจะเอาไวน์มาเตรียมไว้ในตัววิลล่าให้เรียบร้อยก่อนจะเลิกงาน
ตอนนั้นราวสามทุ่ม ผมก็ตั้งใจจะเอาไวน์ไปเตรียมไว้ให้แขก ก็ไม่ได้คิดหรือกลัวอะไร โซนวิลล่าของแขกที่จะมาพักนี้จะแบ่งเป็นสองโซน โซนติดกับป่า กับโซนที่อยู่ช่วงกลางของรีสอร์ต สองโซนนี้ถูกกั้นด้วยพงหญ้าเตี้ย ๆ และข้ามไปอีกฝั่งด้วยสะพานแขวน
ผมตัดสินใจไม่ขับรถบักกี้ไปอีกโซนที่ติดกับป่า ตรงวิลล่าฝั่งนู้น เพราะทางมันมืดและเล็ก อีกอย่างตอนนั้นผมขับยังไม่คล่องด้วยครับ ไม่เคยขับรถยนต์มาก่อนด้วย เลยขับไปจอดตรงสะพานแขวนแล้วเดินข้ามไป
ตอนนั้นมือข้างหนึ่งผมกดมือถือเล่น ส่วนแขนอีกข้างหนึ่งโอบถังไวน์ไว้ ผมเลยต้องเดินช้า ๆ เพราะกลัวถังไวน์จะตก แต่พอเดินขึ้นไปบนสะพาน จู่ ๆ ก็มีความรู้สึกว่าสะพานมันแกว่งแรงมากทั้ง ๆ ที่ผมก็เดินช้า
ความรู้สึกตอนนั้นไม่มีคำว่าผีหรือกลัวอะไร ผมเลยหันหลังกลับไปมอง กำลังจะแซวว่าทำไมเดินแรงจัง เพราะผมนึกว่ามีพนักงานคนอื่นเดินตามมา
แต่พอหันหลังกลับไป ผมถึงกับช็อก เพราะผมเห็นเป็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนจับหัวสะพานอยู่ เธอคนนั้นจ้องหน้าผม ผมก็รีบหันหน้ากลับมา ตอนนั้นตกใจมากครับ คิดอยู่ว่าใช่แขกหรือเปล่า แต่ก็ไม่กล้าหันหลังกลับไปมอง เลยรีบซอยเท้าตรงไปที่วิลล่าที่อยู่ตรงหัวมุมอย่างไว
ลองนึกภาพตามนะครับ สะพานอยู่ต่ำกว่าระดับทางเดิน เวลาเดินขึ้นต้องใช้บันไดห้าถึงหกขั้น จังหวะที่ผมเดินขึ้นบันไดไป ระดับสายตาก็จะมองเห็นช่องว่างใต้บันได วินาทีนั้นเอง ผมเห็นเป็นเงาดำ ๆ เหมือนร่างนั้นกำลังนั่งกอดเข่าอยู่
ความรู้สึกตอนนี้คือใจตกไปอยู่ตาตุ่มแล้วครับ ผมเลยรีบเดินไปที่วิลล่า พอเข้าไปในวิลล่ากลับกลายเป็นว่ามืดและเงียบหนักกว่าเดิมอีก ด้วยความกลัวผมไม่กล้าเดินกลับ ผมเลยโทรหาเพื่อนที่อยู่หน้าฟร้อนให้มารับ
พอเพื่อนมาถึง นางใช้วิธีกดกริ่งแต่ไม่ได้เรียกชื่อผม กดแล้วไปยืนข้าง ๆ ประตู ซึ่งถ้าเรามองจากตาแมวจะมองไม่เห็น ตอนนั้นน้ำตาผมเอ่อแล้ว นึกว่าโดนผีหลอกจริง ๆ ได้แต่อุทานมาว่า “อีเชี่ย!” สรุปนางก็เรียกชื่อ แล้วบอกว่า “นี่ฉันเองเธอ” ผมก็ใจชื้นขึ้นที่เพื่อนมารับ
ผมเลยส่งข้อความเข้ากลุ่มของแผนก บอกว่าผมขอไม่มาวิลล่านี้อีกแล้วนะ มันน่ากลัวมาก แต่ผมก็ไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม หลาย ๆ คนก็บอกว่า พี่ก็เคยเจอแบบนู้นแบบนี้ ตรงนั้นมีผีนะ แต่อารมณ์ตอนนั้นเขาอาจจะแกล้งก็ได้เพราะเห็นว่าผมกำลังตกใจกลัวอยู่
พออีกหลาย ๆ วันถัดมา ปกติแล้วที่นี่ เราจะเอาห้องสปาให้แขกอาบน้ำก่อนที่แขกจะเช็คเอาท์ ปกติแล้วพนักงานสปาจะกลับสามทุ่ม แล้วแขกของผมจะกลับตอนสามทุ่มกว่า ฝั่งสปาเลยบอกว่า งั้นหลังจากแขกออกไปแล้วให้ผมมาเช็คดูของ ดูความเรียบร้อยและมาปิดไฟด้วย ผมก็รับปากเพราะมันเป็นหน้าที่ของเราอยู่แล้ว
พอแขกอาบน้ำเสร็จเกือบ ๆ สี่ทุ่ม รปภ.ก็เดินมาเช็คเพราะไฟยังเปิดอยู่ ซึ่งปกติสามทุ่มต้องปิดแล้ว ผมก็บอก รปภ.ว่า แขกมาใช้งานนอกเวลา
พอผมกลับบ้านตอนสี่ทุ่ม ผมเลยแวะคุยกับ รปภ.ตรงทางออกรีสอร์ต ถามเขาว่า “ปกติพี่เดินตรวจทุกที่เลยหรือเปล่า แล้วดึก ๆ ดื่น ๆ ไม่กลัวผีเหรอ” เขาก็ตอบมาว่า “กลัวสิน้อง แต่มันต้องทำ ยิ่งตรงหัวโค้งวิลล่านั้นนะ แถวนั้นเคยมีผู้หญิงมากรีดยางแล้วโดนฆ่ าข่มขื น เคยมีคนเจออยู่บ่อย ๆ”
ได้ยินแบบนั้นผมก็อึ้งไปสักพัก และเมื่อกลับมาถึงห้อง ผมก็เอาคำบอกเล่าของ รปภ.กลับมาคิด …ตรงนั้นมันที่เราเจอเงาวันนั้นนี่!!
แล้ววันถัดมาก่อนเข้างาน คือปกติผมจะไปกินข้าวที่โรงอาหารของโรงแรม แต่วันนั้นผมรู้ว่าเมนูที่เขาทำ เป็นอาหารที่ผมไม่ชอบ ผมเลยไปกินที่ร้านตามสั่งข้างนอก แถว ๆ รีสอร์ต ผมเลยแอบถามป้าร้านข้าวว่า
“แถวนี้เคยมีข่าวฆ่ าข่มขื นหรืออะไรแบบนี้ไหมครับ”
“อ๋อ…มี แต่มันหลายปีแล้วล่ะ น่าสงสารเขานะ เขาเป็นเด็กขยัน หน้าตาดี เขาโดนทำมิดีมิร้ายแล้วฆ่ าตอนไปกรีดยาง คนร้ายเอาศพยัดใส่กระสอบปุ๋ย ตอนคนมาเจอสภาพศพตอนนั้นคือเหมือนศพนอนกอดเข่าคุดคู้อยู่ในกระสอบ”
ได้ยินแบบนั้นผมแทบช็อก สรุปแล้วคือ ผมคิดว่าคืนนั้นผมโดนจริง ๆ แล้วล่ะ หลังจากนั้นผมก็ไม่กล้าขับบักกี้หรือเดินคนเดียวตอนกลางคืนที่รีสอร์ตแห่งนั้นอีกเลย
ขอขอบคุณที่มา: เจอของดีที่ทำงานเก่า