ร้านเหล้ายายเขียว | เรื่องเล่าสยองขวัญ
พอใกล้จะถึงวันสงกรานต์ในทุก ๆ ปี เพื่อน ๆ ที่ไปทำงานในกรุงเทพฯ หลายคนก็จะกลับมาเยี่ยมเยือนครอบครัวตัวเอง และส่วนใหญ่เพื่อน ๆ ก็จะแวะมารวมตัวกันอยู่ที่บ้านผมเป็นประจำ
ปีนี้ก็เช่นกัน เพื่อนบางคนกลับมาถึงก่อนสงกรานต์สองสามวันก็แวะมาหาผม โทรตามเพื่อนคนโน้นคนนี้ให้มาเจอกันที่บ้านผมในตอนเย็น ไม่นานลานหน้าบ้านผมก็เต็มไปด้วยหมูกระทะกับญาติ ๆ กลุ่มหนึ่ง และก็กลุ่มเพื่อนกับตัวผมที่นั่งกินหมูกระทะกันอีกกลุ่มหนึ่ง
พอเริ่มพลบค่ำสักทุ่มเศษ ๆ กลุ่มญาติ ๆ กับเด็กน้อยพอเขาอิ่มแล้วก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน ก็เหลือแต่กลุ่มเพื่อนผมหกถึงเจ็ดคน ที่มันแย่งกันพูดราวกับว่ามันไม่เคยคุยกันมาก่อน จนผมไม่รู้จะฟังใคร คุยกันไปก็ชนแก้วกันไป ย่างหมูกันไป
พอสองทุ่ม เพื่อนบางคนที่ไม่ได้ไปทำงานกรุงเทพฯ เมียมันก็มาตามกลับบ้าน แต่เพื่อนผมมันกำลังติดลมครับ สุดท้ายก็เลยชวนเมียมันมานั่งร่วมวงด้วย ช่วงนั้นกินกันไปดื่มกันไป อะไรหมดก็วานให้เด็กในบ้านผมไปซื้อมาให้
จนเริ่มสามทุ่มกว่า หลายคนก็เริ่มอืด ๆ นั่งซึมกัน ได้แต่นั่งมองหน้ากันไปมา ผมดูนัยน์ตาพวกมันแล้วประมาณว่า ‘เดี๋ยว ๆ รอกูย่อยเสียก่อน เดี๋ยวกูดวนด้วย’ แต่อยู่ ๆ เพื่อนผมก็พากันเฮขึ้น ผมมองไปหน้าบ้านก็เห็น ไอ้จ่อย มันเดินยิ้มเข้ามา เพื่อน ๆ ต่างเรียกมันให้มานั่งใกล้ ๆ ขยับขยายวงออกให้มันได้นั่ง
“เฮ้ย กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ” ผมถาม
“พึ่งมาถึงเมื่อกี้เอง คิดถึงพวกมึงมาก ก็เลยแวะมาหาก่อน” ไอ้จ่อยว่า
หลังจากนั้นก็คุยกันยาวเลยครับ เพราะไอ้จ่อยมันเป็นคนตลกที่สุดแล้วในกลุ่มพวกเรา กินกันไปจนเกือบ ๆ เที่ยงคืน เหล้าก็หมด น้ำแข็งก็หมด กับแกล้มก็หมด เพื่อนบางคนก็กลับไปก่อนเพราะเมียมันชวนกลับ ก็เหลือนั่งกินกันอยู่ประมาณสี่คน
ตอนนั้นยอมรับเลยครับ ผมนี่ตาลายจนมองเห็นหน้าเพื่อนเป็นสองหน้าแล้ว แต่ก็ยังไหวครับ สู้ ๆ เสียงแต่ละคน อ้อแอ้ อ้อแอ้ คุยแข่งกัน ไม่มีใครฟังใคร พอผมเห็นว่าของกินมันหมดแล้ว แล้วเพื่อนก็ติดลมอยากดื่มต่อ ผมก็เลยอาสาจะไปซื้อของกินกับเครื่องดื่มมาให้ เพราะพวกเด็ก ๆ มันก็เข้านอนกันหมดแล้ว
พอผมยืนขึ้นก็เดินเซ ๆ ไปแทบจะล้มหัวคะมำ จนไอ้จ่อยมันมาช่วยพยุงจับตัวผมไว้ สุดท้ายมันก็เลยบอกว่า เดี๋ยวมันไปซื้อให้เอง มันยังไม่เมาเท่าไหร่ ผมก็เลยบอกให้มันเอามอเตอร์ไซค์ผมขี่ไปซื้อ
ไม่นานก็ได้ยินเสียงสตาร์ทมอเตอร์ไซค์แล้วขี่ออกไป…
หายไปครู่ใหญ่ไอ้จ่อยมันก็กลับมาพร้อมเครื่องดื่มกับน้ำแข็ง แล้วก็ขนมถุงละห้าบาท ผมก็ถามไอ้จ่อยว่า
“มึงไปซื้อมาจากร้านไหน ดึกป่านนี้แล้ว ร้านมันยังเปิดอยู่เหรอวะนั่น”
“กูก็ซื้อมาจากร้านยายเขียวไง” ไอ้จ่อยบอก
จากนั้นเราก็นั่งกินไปต่ออีกพักใหญ่ครับ เกือบ ๆ ตีสอง ไม่ไหวแล้ว ตาจะปิดแล้ว เสียงผมนี่ อ้อแอ้ อ้อแอ้ พูดไม่รู้เรื่องแล้ว แต่ไอ้เพื่อนสองสามคนมันคึกมาจากไหนของมัน ยังจะลากยาวอีก จนผมต้องขอร้องมัน
“วันนี้พอแค่นี้ก่อน กูไม่ไหวแล้ว พรุ่งนี้ค่อยว่ากันเพื่อน” เพื่อนทุกคนก็เลยแยกย้ายกันกลับบ้าน
ตื่นเช้ามาช่วงสาย ๆ หน่อย ผมก็ลุกมายืนดูอนุสรณ์สถานที่ตัวเองกับเพื่อนสรรค์สร้าง สภาพนี่เละไปทั้งลานเลย แล้วผมก็เก็บเอาขวด ขยะต่าง ๆ ไปทิ้งที่ถังขยะหน้าบ้าน พวกน้อง ๆ พี่ ๆ ผมเขาก็มาช่วยเก็บด้วย
ช่วงที่ผมกำลังเอาขยะไปทิ้งที่หน้าบ้าน อยู่ ๆ ก็เห็นรถคล้าย ๆ รถตำรวจวิ่งผ่านหน้าบ้านไป แล้วก็มีรถคล้าย ๆ รถมูลนิธิขับตามไปด้วย ผมก็ยืนดูสักพักแต่ไม่ได้ใส่ใจอะไร ก็กลับไปเก็บกวาดหน้าบ้านต่อ
จนสักพักก็ได้ยินเสียงเหมือนคนเดินมา คุยอะไรกันอยู่สองสามคน ผมก็เลยเดินออกไปดู ถามคนกลุ่มนั้นว่ามาจากไหน เขาก็บอกว่า มาจากบ้านยายเขียว ผมก็ถามว่า
“จะไปไหนกัน”
“จะไปซื้อดอกไม้มาจัดงานที่บ้านยายเขียวน่ะ” คนกลุ่มนั้นบอก
“อ้าว…แล้วมีงานอะไรกัน” ผมก็ถามกลับไป คนกลุ่มนั้นก็เลยเล่าให้ฟังว่า
“ก็เมื่อคืนนี้ ประมาณสี่ห้าทุ่ม ยายเขียวอยู่ ๆ แกก็ช็อกเกร็ง ลูก ๆ แกก็เลยพาแกไปส่งโรงพยาบาล แต่ช่วยไม่ทัน ไปถึงแกก็ปากเขียว หน้านี่คล้ำหมดแล้ว หมอก็ช่วยยื้อชีวิตแกไว้ได้แค่เที่ยงคืน แกก็ไป… นี่รถมูลนิธิพึ่งเอาศพมาส่งบ้านแกตะกี้เอง ลูกแกก็มาตามให้พวกฉันไปช่วยงานเขาหน่อย”
พอได้ฟังจบ ผมนี่ขนหัวลุกเลย!
‘อ้าว… แล้วไอ้จ่อยมันไปซื้อเหล้ากะใครมาให้พวกเรากินวะ!’
นึกถึงตอนที่ไอ้จ่อยไปซื้อเหล้ากับยายเขียวตอนเที่ยงคืนกว่าแล้วก็ บรึ๋ย… ขนลุก! ไอ้จ่อยเอ้ย… แกจะรู้ไหมนั่น ว่าแกซื้อเหล้ากับผี!
รู้อย่างนั้น ผมก็เลยรีบเก็บกวาดหน้าบ้านจนเสร็จ แล้วก็ไปพูดคุยกับญาติ ๆ ผม บอกเขาว่ายายเขียวแกเสียแล้วนะเมื่อคืนนี้ ญาติ ๆ ผมเขาก็เลยแต่งตัวแล้วก็ไปช่วยงานศพที่บ้านยายเขียวกัน ส่วนผมก็แวะไปตลาดเช้า หาซื้อของมากิน
พอดีผมนึกถึงไอ้จ่อยได้ ก็เลยขี่มอเตอร์ไซค์ไปบ้านมัน กะจะไปถามมันเรื่องซื้อเหล้าที่ร้านยายเขียวเมื่อคืนสักหน่อย แต่พอไปถึงก็เห็นแม่มันกำลังล็อกหน้าบ้านอยู่ ผมก็เลยถามว่า
“อ้าวแม่ ไอ้จ่อยไม่อยู่บ้านเหรอ”
แม่ไอ้จ่อยก็มองหน้าผม แล้วก็พูดเหมือนคนเหม่อลอยว่า
“แม่กำลังจะออกไปวัดน่ะลูก ศพจ่อยพึ่งมาถึงเมื่อเช้านี้เอง”
“อ้าว! ไอ้จ่อยมันเป็นอะไรแม่”
แม่ของจ่อยก็ตอบกลับมาว่า “รถคว่ำแถว ๆ โคราชน่ะลูก”
ผมตกใจมากที่ได้ยินแบบนั้น ขนลุกวาบไปทั้งตัว นี่สรุปแล้วไอ้จ่อยไปซื้อเหล้าร้านยายเขียวมาให้พวกผมกิน ผีซื้อเหล้าจากผีมาให้คนกิน…
โอยยย…ผมจะเป็นลมครับ!
ขอขอบคุณที่มา: ipon26